ตลาดเทปกาวสำหรับงานก่อสร้างทั่วโลกมีมูลค่า 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2028 ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) 5.7% ตามรายงานจาก MarketsandMarkets™

ชิคาโก วันที่ 14 กรกฎาคม 2024 (GLOBE NEWSWIRE) -- ตลาดเทปกาวสำหรับงานก่อสร้างทั่วโลกคาดว่าจะเติบโตจาก 2.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023 เป็น 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2028 โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) อยู่ที่ 5.7% ในช่วงปี 2023 ถึง 2028 ตามการศึกษาล่าสุดโดย MarketsandMarkets™ กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลักที่อยู่เบื้องหลังความต้องการที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการใช้งานหลากหลาย เทปกาวเหล่านี้จึงมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ ในงานก่อสร้างหลายประเภท

บนพื้นฐานของเทคโนโลยี ในช่วงเวลาที่คาดการณ์ไว้ ตลาดเทปกาวสำหรับงานก่อสร้างในส่วนของเทคโนโลยีกาวร้อนหลอมมีแนวโน้มจะเติบโตเร็วที่สุดทั้งในด้านมูลค่าและปริมาณ กาวร้อนหลอมจะถูกใช้งานในสถานะของเหลวและแข็งตัวเมื่อเย็นลง โดยกาวชนิดนี้ประกอบด้วยองค์ประกอบของแข็งทั้งหมดที่มาจากโพลิเมอร์เทอร์โมพลาสติก การใช้เทคโนโลยีกาวร้อนหลอม เทปกาวจะถูกผลิตขึ้นโดยการทำให้กาวละลายและเคลื่อนย้ายไปยังหัวเคลือบขณะที่ยังคงอยู่ในสถานะของเหลว จากนั้นชั้นกาวจะถูกสร้างขึ้นโดยการกดกาวที่ละลายผ่านแม่พิมพ์ กาวร้อนหลอมได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีเวลาเซ็ตตัวรวดเร็ว ต้นทุนวัสดุและกระบวนการต่ำ และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย ในด้านการใช้เทคโนโลยี เทคโนโลยีที่ใช้สารละลายเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

ตามประเภทของเรซิน ทั้งในแง่ของมูลค่าและปริมาณ ส่วนของอะคริลิกในตลาดเทปกาวสำหรับงานก่อสร้างคาดว่าจะเติบโตอย่างรวดเร็วที่สุดในช่วงปีที่คาดการณ์ อัตราการถ่ายโอนไอน้ำของเทปเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการซึมผ่านของความชื้น ความหนาและความเข้มข้นของชั้นกาวเป็นตัวกำหนดว่าความชื้นสามารถผ่านได้มากแค่ไหน เทปกาวสำหรับงานก่อสร้างที่มีฐานอะคริลิกมีความแข็งแรงและเสถียรกว่าเทปที่มีฐานยาง อะคริลิกเรซินได้รับความนิยมสูงเนื่องจากมีการใช้งานหลากหลายในอุตสาหกรรมก่อสร้าง ราคาที่เหมาะสม และคุณสมบัติทางกายภาพเคมีที่ดี